๑.โครงการ “สนับสนุนการรักษาโรคหัวใจแก่เด็กและครอบครัวที่อยู่ในภาวะยากลำบาก” (PFCP)
มูลนิธิรักษ์เด็กได้รับงบประมาณต่อเนื่องให้ดำเนินงาน จาก Edwards Lifesciences Foundation ผ่านองค์กรจัดการโครงการชื่อ CAF America และบริษัท Daiichi Sankyo Limited Thailand จำนวน ๗๒๐,๐๐๐ บาท โดยปี พ.ศ. ๒๕๖๗ มีผู้ป่วยโรคหัวใจได้รับการผ่าตัดแล้ว จำนวน ๓๑ ราย (ผู้ใหญ่ ๒๘ ราย เด็ก ๓ ราย) ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อบริการคัดกรองโรคหัวใจ จำนวน ๔ ครั้ง มีผู้เข้ารับบริการตรวจ คัดกรองโรคหัวใจจำนวน ๓๗๒ คน และได้จัดกิจกรรมรณรงค์เผยแพร่ความรู้แก่ญาติผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปจำนวน ๑,๓๒๘ ราย
๒.โครงการ “เสริมพลังแก่กลุ่มผู้หญิงพึ่งตนเองเพื่อส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนาแก่ลูกหลาน” (MWEC) เป็นการดำเนินงานปีที่สามของโครงการเต็มรูประยะเวลา ๕ ปี ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๖๕ ถึง พ.ศ.๒๕๖๙ มูลนิธิ รักษ์เด็กได้ดำเนินงานในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ๓ ตำบลได้แก่ ตำบลหนองหาร ตำบลแม่แฝกใหม่และตำบลป่าไผ่ โดยรับงบประมาณสนับสนุนจาก Kinder not hilfe (KNH) จำนวน ๑,๙๘๓,๑๓๐.๘๖ บาท ผลการดำเนินงานมีดังนี้คือ
๑.มีการจัดตั้งกลุ่มผู้หญิงพึ่งตนเอง จำนวน ๒๔ กลุ่ม มีสมาชิกของกลุ่มรวมกันทั้งสิ้นจำนวน ๒๔๑ คน มีเด็กลูกหลานของสมาชิกกลุ่มรวมทั้งสิ้นจำนวน ๒๘๒ คน มีการออมเงินของทุกกลุ่มเป็นประจำและมียอดเงินกองทุนเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ กลุ่มผู้หญิงพึ่งตนเองจำนวนหกกลุ่มมีการตั้งเป้าหมายของกลุ่มให้มีแผนการใช้เงินกองทุนไปลงทุนทำธุรกิจของกลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจการขายของชำ การผลิตน้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตน้ำพริกคั่วทรายของไทใหญ่ ขายถั่วเน่าแผ่น ซึ่งมีผลกำไรที่ได้จากธุรกิจของกลุ่มมาจัดสรรคืนให้แก่สมาชิกและนำไปใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงสมทบกิจกรรมสำหรับพัฒนาลูกหลาน เช่น กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ เป็นต้น มีการใช้ประโยชน์จากเงินกองทุน ด้วยการกู้ยืมเงินนำไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนเพื่อการศึกษาของลูก เป็นค่ารักษาพยาบาลและเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่อใบอนุญาตทำงานเพื่อให้มีงานทำสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว
๒.สนับสนุนให้สมาชิกกลุ่มผู้หญิงพึ่งตนเองรวมตัวกันจัดตั้งเป็นเครือข่ายผู้หญิงพึ่งตนเองระดับชุมชน (Community self-help groups cluster (CLA) ได้จำนวน ๒ เครือข่ายซึ่งเครือข่ายที่ ๑ มีศูนย์กลางอยู่ที่พื้นที่ตำบลหนองหาร มีกลุ่มสมาชิกจำนวน ๔ กลุ่ม และเครือข่ายที่ ๒ มีศูนย์กลางอยู่ที่พื้นที่ตำบลแม่แฝกใหม่ มีกลุ่มสมาชิกจำนวน ๔ กลุ่ม ทั้งนี้เพื่อรวมพลังเข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมที่เป็นปัญหาและความต้องการของพี่น้องแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะการพัฒนาลูกหลานของตนเอง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม เศรษฐกิจและด้านการเมือง
๓.งานด้านการส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายแกนนำเยาวชนบุตรหลานคนงานข้ามชาติ (เครือข่าย Migrant Youth Leaders) โครงการได้จัดอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชน จำนวน ๗๗ คน ประกอบด้วยแกนนำเยาวชน จาก ๓ โรงเรียนพันธมิตร ได้แก่ โรงเรียนบ้านเจดีย์แม่ครัว โรงเรียนบ้านแม่โจ้และโรงเรียนวัด แม่แก้ดน้อย จำนวน ๕๗ คนรวมถึงแกนนำเยาวชนที่เป็นลูกหลานคนงานข้ามชาติในชุมชนของกลุ่มผู้หญิงพึ่งตนเองจำนวน ๒๐ คน การจัดอบรมเน้นกระบวนการพัฒนาทักษะชีวิต บทบาทการเป็นผู้นำและสนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายเยาวชนลูกหลานคนงานข้ามชาติจากระดับตำบลสู่ระดับอำเภอ เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดให้แก่เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง ซึ่งในการนี้แกนนำเยาวชนได้ดำเนินการจัดกิจกรรมที่ริเริ่มด้วยตนเอง ๓ โครงการ สามารถจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมรับรู้และรับข้อมูลครอบคลุมเด็กจำนวนกว่า ๑๐,๕๐๐ คน
๓. โครงการเสริมพลังและความเข้มแข็งแก่เครือข่ายเยาวชนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง และเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมด้านสิทธิเด็กในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย (EE-CR) เป็นการดำเนินงานปีที่สี่ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการของโครงการ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เดือนธันวาคม ๒๕๖๗ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก Diakonia Thailand จำนวน ๗๐๕,๖๖๗ บาท ทั้งนี้มูลนิธิรักษ์เด็กได้ดำเนินงานในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นกองเลขานุการเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ได้เติมเต็มและต่อยอดการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนาอย่างต่อเนื่อง เกิดการรวมตัวขององค์กรภาคประชาสังคมที่เน้นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็ก ร่วมกันรณรงค์และผลักดันเชิงนโยบายอย่างต่อเนื่องทั้งสี่ปี ปัจจุบันมีจำนวนองค์กรสมาชิกเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา จำนวน ๑๘ องค์กร มีหน่วยงานภาครัฐเป็นที่ปรึกษาเครือข่าย จำนวน ๗ องค์กร และกลุ่มเครือข่ายเด็กและเยาวชนจำนวน ๒๒ กลุ่ม รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๔๗ องค์กร/กลุ่ม เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนาได้ร่วมงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บ้านพักเด็กและครอบครัว และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สร้างเสริมความเข้มแข็งแก่กลไกคุ้มครองเด็กในท้องถิ่น และเพิ่มการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนให้ใช้เวทีสภาเด็กและเยาวชนระดับตำบลจำนวน ๑๐ ตำบล ๘ อำเภอใน ๔ จังหวัด ร่วมจัดงานมหกรรมสิทธิเด็กล้านนา “เด็กและสตรี ส่งเสียง : “ยุติความรุนแรง ขอพื้นที่ปลอดภัย” (Lanna CRC Festival : Child-Friendly Space to End Violence against Children and Women) เนื่องในโอกาสวันเด็กโลก เพื่อนำเสนอแถลงการณ์ความห่วงกังวลต่อสถานการณ์สิทธิเด็ก จัดกิจกรรมรณรงค์แก่สาธารณชนและยื่นข้อเสนอแนะแก่หน่วยงาน กรรมาธิการฯ ผู้มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็ก จำนวน ๔ ครั้ง
สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรรมเพื่อสิทธิเด็ก มีการรวมตัวของแกนนำเยาวชน จำนวน ๒๒ กลุ่ม ในชื่อเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ที่มีส่วนร่วม รู้เท่าทัน พัฒนาทักษะและร่วมรณรงค์ เรียกร้องสิทธิอันพึงมีพึงของตนเองร่วมกับเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา
- เครือข่ายเด็กและเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง กลับมาเข้มแข็ง คืนพลังและร่วมรณรงค์ผลักดันสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองกับสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย
- เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรรมเพื่อสิทธิเด็ก ริเริ่ม ดำเนินกิจกรรม โครงการณรงค์จำนวน ๒๓ โครงการ ในโรงเรียนและชุมชนของตนเองครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า ๘๐,๐๐๐ คน
- เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรรมเพื่อสิทธิเด็ก ร่วมกิจกรรมรณรงค์ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็ก ในท้องถิ่น ทั้งระดับตำบล อำเภอและจังหวัดมากกว่า ๓๐ ครั้ง
- แกนนำเยาวชน ของเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรรมเพื่อสิทธิเด็ก เข้าร่วมเวที แสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะในมุมมองของเด็กและเยาวชน ทั้งระดับชาติและนานาชาติ มากกว่า ๓๐ เวที
นอกจากนี้ ในปี ๒๕๖๗ เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา (LCRC) จึงได้ขับเคลื่อนประเด็นสิทธิเด็กเพื่อให้เด็กและเยาวชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ๕ ประเด็นคือ ๑.ประเด็นสิทธิเด็กที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากความรุนแรงทุกประเภท *การลงโทษเด็กทางกาย **ความรุนแรงจากการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) ***ความรุนแรงต่อสตรีในครอบครัวและชุมชน๒.ประเด็นสิทธิวัยรุ่นกับปัญหาอนามัยเจริญพันธ์ โรคติดต่อและการคุกคามทางเพศ ๓.ประเด็น รู้เท่าทันและขจัดความรุนแรงจากภัยออนไลน์ รวมถึงการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและสตรี และการค้ามนุษย์ ๔.ประเด็นสิทธิเด็กที่จะมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่มีสุขภาวะโดยเน้นที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๕.ประเด็นประเด็นสิทธิเด็กลูกหลานคนงานข้ามชาติและเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติที่ต้องได้รับการพัฒนาสถานะบุคคล เข้าถึงการโอกาสทางการศึกษา การดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล
อีกหนึ่งความสำเร็จในการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเด็กในฐานะกองเลขานุการเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนาและองค์กรสมาชิกได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ๒๕๖๗ เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ประสบความสำเร็จในการจัดมหกรรมเมหกรรม เด็กและสตรีส่งเสียง : “ยุติความรุนแรง ขอพื้นที่ปลอดภัย” Lanna CRC Festival #๔: เนื่องในโอกาสครบรอบ ๓๔ ปีการลงสัตยาบันรับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของประเทศไทย โดยถือเป็นกิจกรรมที่องค์กรสมาชิกเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ได้บูรณาการงบประมาณ ทรัพยากรบุคคล การจัดงานครั้งนี้ มี ๓ รูปแบบ ประกอบด้วย เวทีสำคัญคือ
๑. เสวนาโต๊ะกลม : เวทีเสวนาเพื่อสร้างความมุ่งมั่น และผลักดันข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลลูนโรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่
๒. การเดินรณรงค์จากพุทธสถาน ไปยังลานกิจกรรมประตูท่าแพ และ
๓.เวทีรณรงค์สาธารณะ ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการอ่านแถลงการณ์ข้อเสนอแนะจากเด็กและเยาวชนใน ๕ ประเด็นที่ขับเคลื่อน ในงานนี้มีองค์กรเข้าร่วมทั้งหมด ๓๑ องค์กร ผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด ๔๒๐ คน โดยเป็นตัวแทนจากองค์กรสมาชิกเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา และประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจ รวมไปถึงผู้ชมที่เข้าถึงการถ่ายทอดสด ประมาณจำนวน ๒,๐๐๐ คน มีการเผยแพร่สู่เพจสาธารณะอื่นๆ จำนวนกว่า ๕,๐๐๐คน
๔. โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งและเสริมพลังแก่เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนาเพื่อการขับเคลื่อน ผลักดัน ส่งเสริม และ คุ้มครองสิทธิเด็ก (SE-LCRC)
โครงการนี้มีส่วนสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เดือน กันยายน ๒๕๖๖ โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก Kinder not hilfe (KNH) จำนวน ๕๔๐,๐๐๐ บาท และได้มีการปรับปรุงแผนงานและวงงบประมาณ ขยายเวลาดำเนิงานต่อจากเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ ถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๗ เป็นจำนวนงบประมาณรวมทั้งสิ้น ๙๗๓,๓๘๐ บาท โครงการได้ส่งเสริมให้การขับเคลื่อนงานของกองเลขานุการ เอื้อให้เกิดเวทีการประชุมสัมมนากับองค์สมาชิกอย่างต่อเนื่อง เกิดการสัมมนาและอภิปรายความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนในภาคเหนือตอนบนตามสิทธิที่พวกเขาพึงมีพึงได้ และมีความเห็นพร้องกันว่าจะเน้นขับเคลื่อนประเด็นสิทธิเด็กเพื่อให้เด็กและเยาวชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ๔ ประเด็นคือ ๑) ประเด็นสิทธิเด็กที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากความรุนแรงทุกประเภทและทุกสถานที่ทั้งในบ้าน โรงเรียน ชุมชน สถานสงเคราะห์และในโลกออนไลน์ ๒) ประเด็นสิทธิเด็กที่ต้องได้รับการพัฒนาสถานะบุคคล เข้าถึงการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล ๓) ประเด็นสิทธิเด็กที่จะมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่มีสุขภาวะโดยเน้นที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๔) ประเด็นสิทธิเด็กที่จะเข้าถึงการศึกษา การส่งเสริมทักษะวิชาอาชีพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงได้เรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมและภูมิปัญญาชาติพันธุ์ของตนเอง ทำให้เกิดการบูรณาการแผนงาน งบประมาณ ทรัพยากรระหว่างองค์กรสมาชิก โดยเฉพาะการร่วมกันขับเคลื่อนงานรณรงค์ผลักดันสิทธิเด็ก๔ ประเด็น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนธันวาคม ๒๕๖๗ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด ประเทศ และระดับสากล อาทิเช่น ร่วมจัดงานรณรงค์ขจัดความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ (Gender-based violence’s) ในห้วงเวลาแห่งการรณรงค์ Orange Days Activism โดยจัดกิจกรรมรณรงค์แก่สาธารณะระหว่างกิจกรรมเดิน-วิ่ง ข้ามโขง ณ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ ๒๕ พ.ย. ถึง ๑๐ ธันวาคม ซึ่งได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาถึง ๓ ปีติดต่อกัน (๒๕๖๕-๒๕๖๗)
จุดเด่นของความสำเร็จ คือ การจัดกิจกรรม Chiang Mai Pride ๒๗๒๔ จัดวันที่ ๒๕– ๒๖ พ.ค.๒๕๖๗ ณ ลานกิจกรรมประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีแกนนำเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก (CRYA) มีส่วนร่วมการเฉลิมฉลองความเท่าเทียมทางเพศ ในเดือนแห่งการรณงค์ความเท่าเทียมบนความหลากหลายทางเพศและได้เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชน ในนามของเครือข่าย CRYA / LCRC ขึ้นพูดบนเวทีเพื่อประกาศเจตนารมย์ จำนวน ๒ คน เกี่ยวกับสิทธิเด็กผู้มีความหลากหลายทางเพศ “โดยต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ และเอกสารสนับสนุนและเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนกลุ่ม ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้มีโอกาสแสดงความสามารถ ส่งเสริมให้มีสัดส่วนตัวแทนของเด็กและเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้มีบทบาทในชุมชนทุกระดับ มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบที่เด็กได้รับ มีการเยียวยาทางด้านจิตใจเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เด็กและเยาวชน ร่วมกับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ อย่างมีความสุข รวมถึงได้รับการยอมรับจากคนในสังคมเพราะเราเท่าเทียมกันไม่เลือกปฏิบัติ คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก ตามหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก นอกจากนี้ แกนนำเยาวชนยังมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายรับรองเพศสภาพภาคประชาชนและร่วมจัดบูทนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลและเกมส์เกี่ยวกับการยุติความรุนแรงต่อเด็กผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ และข้อความร่วมรณงค์รวมพลังในประเด็นสิทธิเด็กกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะเช่น มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อช่องทางหลักหลายสถานี มีการไลฟ์สด คาดว่ามีผู้เข้าชม รับรู้รับทราบไป ทั่วประเทศ ทำให้เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก เป็นที่รู้จักและรับรู้ในวงกว้าง ได้รับการติดต่อประสานงานจากหน่วยงานองค์กรที่ขับเคลื่อนประเด็นความหลากหลายทางเพศในระดับจังหวัดเข้าร่วมเวทีเสวนาต่างๆ เพิ่มขึ้น น้องๆ เยาวชน มีความมั่นใจและกล้าแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็ก ระดับสาธารณะมากขึ้น มีผู้เข้าร่วมงาน ๕,๐๐๐ คน และมีผู้ชมผ่านระบบออนไลน์ จำนวนประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน
อีกหนึ่งความสำเร็จของเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา คือเกิดคณะทำงานสิทธิเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติของเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ซึ่งได้ดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน ๑๕ องค์กร (หน่วยงานภาครัฐ ๑๐ องค์กร หน่วยงานภาคประชาสังคม ๕ องค์กร จำนวน ๑๘ คน) โดยได้รับการแต่งตั้งเป็น “คณะทำงานคุ้มครองสิทธิเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้คณะอนุกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดเชียงใหม่” ตามคำสั่งแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ โดยมีท่านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงาน และ นายเกรียงไกร ไชยเมืองดี ผู้อำนวยการมูลนิธิรักษ์เด็ก /ผู้แทนเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ตำรงตำแหน่งรองประธานคณะทำงาน
๕. โครงการ “ยืนหยัด ขจัดการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก” (Step Up to Fight Against Sexual Exploitation on Children; SUFASEC)
มูลนิธิรักษ์เด็ก ต่อยอด การดำเนินงาน โครงการ “ยืนหยัด ขจัดการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก” (Step Up to Fight Against Sexual Exploitation on Children; SUFASEC) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน เป็นปีที่สองของโครงการ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย Down To Zero และเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสิทธิเด็กเอเชีย (CRC Asia) นำการบริหารโครงการโดยองค์การแตแดซอม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (terre des hommes Netherland) ได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน ๓,๒๑๔,๘๖๐.๕๘ บาท จากการดำเนินงานในปีที่สอง โดยความร่วมมือจากโรงเรียนพันธมิตรทั้งหกแห่ง และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ประสบความสำเร็จ คือ
๑.มีครูแกนนำ จำนวน ๖๕ คน ที่ได้รับการอบรม เรื่องเพศวิถี การอนามัยเจริญพันธุ์ และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก และนำไปจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนโดยบูรณาการในแผนการเรียนการสอน วิชาสุขศึกษา วิชาชุมนุม และ Home room
๒.มีผู้ปกครองและผู้เลี้ยงดูเด็ก จำนวน ๗๕๗ คน ได้รับการอบรมเรื่องการเลี้ยงลูกเชิงบวก เพื่อสร้างความตระหนักต่อการป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก และเกิดแกนนำผู้ปกครองที่คอยเฝ้าระวังและส่งต่อเคส ในกรณีเกิดเหตุในชุมชน จำนวน ๒๑ คน
๓.เกิดการจัดตั้งคณะทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ โดยมีคำสั่งแต่งตั้งจากนายอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งมีแผนการขับเคลื่อนงานป้องกันการเสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กร่วมกันอย่างอย่างเป็นรูปธรรม และ
๔. เกิดกลุ่มแกนนำเด็กและเยาวชนต่อต้านการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก (SUFASEC Youth Council) ซึ่งมีสมาชิกจากพื้นที่ ๓ จังหวัด จำนวน ๒๓ คน ที่ร่วมขับเคลื่อนงานรณรงค์ในประเด็นการอนามัยเจริญพันธุ์ ภัยออนไลน์ และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ในเวทีต่างๆที่จัดขึ้นในระดับอำเภอและระดับชาติ เช่น งานงานมหกรรมสิทธิเด็กล้านนา งานวันยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี งานมหกรรมเดินวิ่งข้ามโขงยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ งานวันส่งเสริมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยแห่งชาติ ปี ๒๕๖๘ เป็นต้น และมีแกนนำนักเรียนในโรงเรียนพันธมิตรทั้ง ๖ แห่ง จำนวน ๙๒๙ คน ที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ ได้จัดทำโครงการริเริ่มโดยกลุ่มเด็ก ผ่านกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน ในประเด็นการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การป้องกันภัยออนไลน์ และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก โดยมีนักเรียนได้รับความรู้จากการเข้ากิจกรรมดังกล่าว จำนวน ๔๐๐ คน
๖. โครงการเสริมสร้างองค์กรภาคประชาสังคมและผู้มีบทบาทในระดับท้องถิ่นเพื่อการผลักดันเชิงนโยบาย (Building Organisations & Local actors Dialogue (for) – Policy ; B.O.L.D)
มูลนิธิรักษ์เด็ก เริ่มดำเนินงานโครงการใหม่ คือ โครงการเสริมสร้างองค์กรภาคประชาสังคมและผู้มีบทบาทในระดับท้องถิ่นเพื่อการผลักดันเชิงนโยบาย (Building Organisations & Local actors Dialogue (for) – Policy ; B.O.L.D. – Policy) ในพื้นที่ ๑๑ ตำบล ๗ อำเภอ ๓ จังหวัด ซึ่งต่อยอดการทำงานในพื้นที่ที่มูลนิธิรักษ์เด็กเคยดำเนินงานโครงการด้านสิทธิเด็ก คือ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และขยายพื้นที่การทำงานใหม่ไปที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเทิง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีระยะเวลาการดำเนินงาน ๔ ปี ตั้งแต่เดือน มกราคม ๒๕๖๗ ถึง เดือนธันวาคม ๒๕๗๐ โดยมูลนิธิรักษ์เด็กดำเนินงานโครงการร่วมกับ มูลนิธิศูนย์เพื่อน้องหญิง บริหารโครงการโดย องค์การไดอะโกเนีย สำนักงานประเทศไทย (Diakonia Thailand) ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (The European Union – EU) และในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ได้รับงบประมาณจำนวน ๑,๙๐๕,๗๙๕.๖๓ บาท
ทั้งนี้โครงการมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา (LCRC) เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก (CRYA) และองค์กรชุมชนที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน โดยการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ และได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ทั้ง ๑๑ ตำบล อีกทั้งได้เชื่อมงานกับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย มีแกนนำเด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการและผ่านการอบรมเสริมสร้างทักษะความรู้เรื่องสิทธิเด็ก ภาวะผู้นำเพื่อสังคมและการทำงานเป็นทีม จำนวน ๒๗๑ คน อีกทั้งโครงการได้จัดทำรายงานการศึกษาสถานการณ์สิทธิเด็ก (Child Rights Situational Analysis : CRSA) ในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ซึ่งได้มีการจัดเก็บข้อมูลกับกลุ่มเด็กและเยาวชน (ผู้มีสิทธิ) ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ (ครู พ่อแม่ผู้ปกครอง อาสาสมัครชุมชน องค์กรภาคประชาสังคม ผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็ก) และผู้มีหน้าที่ให้สิทธิ (นายก อบต./ทต. ผู้บริหารโรงเรียน ผู้นำชุมชน) จำนวน ๒๒๓ คน สำหรับนำข้อมูลไปวางแผนการดำเนินงานร่วมกับแกนนำเยาวชนในปี ๒๕๖๘ – ๒๕๗๐ ต่อไป
การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการรณรงค์ผลักดันและการเข้าร่วมงานเวทีต่างๆ แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นแกนนำเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ในปี ๒๕๖๗
ทั้งในรูปแบบพบหน้าและผ่านช่องทางออนไลน์
ในปี ๒๕๖๗ ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก CRYAได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมรณรงค์ผลักดันและกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ กว่า 12 กิจกรรมที่เกิดขึ้นดังนี้
1.ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ได้ร่วมแถลงการณ์ และจัดนิทรรศการให้ความรู้ เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ และการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ในงานเทศกาลเยาวชน Youth Festival จัดงานโดยมูลนิธิรักษ์ไทย ณ ลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 โดยในงานได้มีการทดลองใช้ บอร์ดเกมเกี่ยวกับเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์และเรื่องเพศปลอดภัยพร้อมจัดนิทรรศการให้ความรู้ และร่วมแถลงการณ์ในงานดังกล่าว
2.ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก พร้อมเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านทักษะชีวิตศึกษาเรื่องเพศวิถี อนามัยการเจริญพันธุ์และป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก โดยเฉพาะผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ภายใต้โครงการ “ยืนหยัด ขจัดการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก” (SUFASEC) ณ โรงแรมฮอลิเดย์การ์เด้นท์ ระหว่างวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 ดำเนินการโดย มูลนิธิรักษ์เด็ก และ CRC Asia สนับสนุนโดย Down To Zero (D2Z); Terre des hommes Netherlands และ กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยแกนนำเยาวชนได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และวางแผนในการที่จะนำกิจกรรมไปเผยแพร่ต่อไป
3.ตัวแทนแกนนำเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กและมูลนิธิรักษ์เด็ก ในนามกองเลขานุการเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา องค์กรสมาชิกของเครือข่ายฯ คือ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิรักษ์ไทยและสภานักเรียนโรงเรียนสันกำแพงเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพลังร่วมใจจับมือกับสภาเด็กและเยาวชนอำเภออมก๋อย และภาคีเครือข่ายในองค์กรท้องถิ่นอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “อมก๋อยเฟส #3 ดนตรี กวี ศิลป์” (OmKoi FEST #3)” ณ ลานที่ว่าการอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2567 มีการประกวดแข่งขันวงดนตรี การประกวดวาดภาพใน 2 หัวข้อ ได้แก่ 1.“สิทธิเด็กกับสิ่งแวดล้อม เน้นการป้องกัน ไฟป่าและลดปัญหาหมวกควัน” 2. “รวมพลังปกป้องเด็กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ” กิจกรรมสร้างสรรค์ทักษะการปกป้องตนเองแก่เด็กและเยาวชนที่มาร่วมงาน โดยจัดทำซุ้มนิทรรศการสำหรับเผยแพร่ความรู้และสื่อในเรื่องประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสิทธิเด็ก มีกิจกรรมบอร์ดเกมการเรียนรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ บอร์ดเกมการเดินทางของหัวใจ เรียนรู้เข้าใจ ปลอดภัย ยุติการรังแก รู้เท่าทันภัยออนไลน์ ทั้งนี้มีนางสาวพรเจริญ เสริมมติวงศ์ เป็นตัวแทนเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายและได้เชิญชวนเด็กและเยาวชนอำเภออมก๋อยร่วมรณรงค์ #รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการมีอากาศที่ดีสำหรับเด็กและประชาชนอำเภออมก๋อย
4.ตัวแทนสมาชิกกลุ่มเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กจำนวน 10 คนได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ“วางแผนงานขับเคลื่อนสิทธิเด็กเชิงประเด็นและการเสริมทักษะในการสร้างกระบวนการChild Consultation แก่เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา” ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนวิว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26-28 เมษายน 2567 โดยในการประชุมตัวแทนเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ได้นำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานเครือข่ายเยาวชน นักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กล้านนา (CRYA) ปี 2566 และได้เรียนรู้กระบวนการ (Child Consultation Process) สามารถนำมาใช้ในการดำเนินงานส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กอย่างมีความหมายร่วมกับขับเคลื่อนแผนงานรณรงค์ประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
5.เครือข่ายเด็กและเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง (TKN) ได้จัดงานสมัชชาเด็กและเยาวชนชน เผ่าพื้นเมือง TKN Festival เทศกาลมีดี ครั้งที่ 4 ณ ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา ตำบลแม่ปูคา อำเภอ สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่เมื่อ วันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2567 โดยในงานมีสมาชิกเครือข่ายเด็กและเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง รวมจํานวนทั้งสิ้น 170 คนมีแกนนำเครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก เข้าร่วมกิจกรรมและได้รับการคัดเลือกให้เป็นรองประธาน 2 คนและเป็นกรรมการ 1 คนในคณะกรรมการเครือข่ายเด็กและเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง ชุดใหม่ (ชุดที่ 5) ผ่านการรับรองจากสมาชิกของเครือข่าย และในงานครั้งนี้เด็กและเยาวชนยังได้มีส่วนร่วมในการนําเสนอผลการดําเนินงานในแต่ละพื้นที่ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาของเด็กและเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองด้วยกันเอง ทั้งประเด็นสิทธิเด็กกับสิ่งแวดล้อม ประเด็นความหลากหลายทางเพศบนพื้นฐานของความเป็นชาติพันธุ์ และ มีความเข้าใจถึงกลไกและบทบาทของสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย และเข้าใจสาระสําคัญร่าง พ.ร.บ.สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย พ.ศ…. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ…. และร่าง พ.ร.บ.ฉบับอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้ร่วมระดมแนวทางการมีส่วนร่วมในการผลักดันกฎหมายร่วมกันร่วมวางแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนงานเครือข่ายร่วมกัน รวมถึงได้แนวทางความร่วมมือของภาคีองค์กรเครือข่ายที่ทํางานด้านเด็กและเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองในการสนับสนุนงานแก่เครือข่ายเด็กและเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง ในระยะต่อไป
6.เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กและเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา ร่วมเดินขบวนฉลองความ เท่าเทียม โบกธงสายรุ้งปลิวสยายสไว ส่งสัญญาณสายลมแห่งเสรี ณ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2567 โดยในงานนี้ ตัวแทนเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก นำโดยน้องต้นคูณ และน้องแมทธิวได้เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนขึ้นเวที ประกาศเจตนารมณ์ส่งสารถึงทุกคน ในเรื่องสิทธิเด็กผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรบ.สมรสเท่าเทียมและกฏหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นหลัก “เพศเท่าเทียม คนเท่ากัน” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
7.เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ได้รณรงค์เชิญชวนทุกคนมาช่วยกันรักษาโลกใบนี้ให้น่าอยู่เพื่อเด็กๆและมนุษย์ทุกคนในอนาคต ในช่วงเวลาแห่งวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเสนอ 4 วิธีง่ายๆในการลดการใช้พลาสติกเพื่อให้โลกนี้น่าอยู่สำหรับเด็กๆ และมนุษย์ทุกคนในอนาคตต่อไปและในโอกาสนี้ทางสภานักเรียนโรงเรียนสันกำแพงซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายเยาวชน นักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก CRYA ได้เชิญชวนทุกคน เข้าเรียนรู้ หลักสูตร : การจัดการขยะอย่างถูกวิธี และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ออนไลน์ Study At Home พร้อมทั้งรับเกียรติบัตรจากโรงเรียนสันกำแพงเมื่อจบหลักสูตร
8.เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กและกลุ่มเยาวชนตำบลนครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จัดโครงการ DVC Digital Vaccine Cyberbullying สร้างภูมิคุ้มภัยออนไลน์ด้วยสื่อสร้างสรรค์ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลนครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 “เพราะการกลั่นแกล้งกันเป็นบาดแผลที่บาดลึก” สนับสนุนงบประมาณโดย TKN สมาคม IMPECT สสส. อบต.นครเจดีย์ มูลนิธิรักษ์เด็ก และเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา มีแกนนำสภานักเรียนโรงเรียนป่าซางวชิรป่าซาง โรงเรียนธรรมสาธิตศึกษา สภาเด็กตำบล รวมจำนวน 70 คน วิทยากรจาก Seed Thailand และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนธรรมสาธิต วชิรป่าซาง ช่วยประสานงาน และน้องๆเยาวชนมีความตั้งใจในการร่วมกิจกรรม เกิดความตระหนักรู้ร่วมกันในช่วงเวลาของการณรงค์วันยุติการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์สากล
9.เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ได้ร่วมรณรงค์ออนไลน์ในวันต่อต้านการค้ามนุษย์สากล “หยุดค้ามนุษย์ เพราะทุกคนเท่าเทียมกัน” 30 กรกฎาคม 2567 ผ่านช่างทางออนไลน์ต่าง ๆ
10.แกนนำเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก เข้าร่วมอบรมออนไลน์ปลอดภัย จัดโดย ECPACT ณ โรงแรมอโมร่า ท่าแพ วันที่ 27-30 ตุลาคม 2567 โดยได้รับการอบรมทักษะรู้เท่าทันและการป้องกันภัยออนไลน์ใรรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ เก่งชีวิต เก่งออนไลน์ซึ่งตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันของน้อง ๆ เยาวชน
11.เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็ก ร่วมกับ เครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา “ร่วมเฉลิมฉลองและสร้างความตระหนักถึงสิทธิเด็กในวันเด็กสากล” (Universal Children’s Day) 20 พฤศจิกายน 2567 และงานมหกรรมสิทธิเด็กล้านนา ครั้งที่ 4 “พลังเด็ก พลังอนาคต” มหกรรม เด็กและสตรีส่งเสียง ครั้งที่ 4 “ยุติความรุนแรง ขอพื้นที่ปลอดภัย”Lanna CRC Festival #4 : Child-Friendly Space to End Violence against Children and Women เนื่องในโอกาสครบรอบ 32 ปี การลงสัตยาบันรับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของประเทศไทย วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 ช่วงเช้า ณ โรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรมภาคเช้า ประกอบด้วย การออกบูทนิทรรศการของหน่วยงาน การเล่นเกม/กิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ในประเด็นต่างๆ การร่วมรณรงค์เขียนข้อความรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีการแสดงของเด็กเยาวชน พิธีเปิดงาน และเวทีเสวนาและร่วมการเสวนาโต๊ะกลม: เวทีเสวนาเพื่อสร้างความมุ่งมั่น และผลักดันข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย แสวงหามาตรการและทรัพยากรเพื่อสิทธิเด็ก ภาคค่ำเวทีรณรงค์สาธารณะเด็กและสตรีส่งเสียง: “ยุติความรุนแรง ขอพื้นที่ปลอดภัย” ด้วยการแสดงและสื่อหลากหลายรูปแบบของเด็กเยาวชนและสตรีรวมถึงกิจกรรมสร้างความมุ่งมั่น (Pledge of Action) ข่วงประตูท่าแพ มีการจัดกิจกรรมการแสดงความสามารถของเยาวชน บูทนิทรรศการโดยมีตัวแทนแต่ละองค์กรขึ้นเวทีแนะนำ บูธนิทรรศการบนเวทีการอ่านแถลงการณ์ 5 ประเด็นเพื่อสิทธิเด็กและสตรีต่อสาธารณะ และกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่เทศกาลการรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อเด็กหญิงและสตรี 25 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567
12.แกนนำเยาวชน เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กและเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนาร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ ในงาน เดิน วิ่ง ข้ามโขง 2024 (Kham Kong Run #3) “ยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ” ณ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว – อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 7-8 ธันวาคม 2567 น้อง ๆ แกนนำได้จัดกิจกรรมในบูทนิทรรศการ มีเกมบันไดงูเกี่ยวกับลดความรุนแรง โปสเตอร์รณรงค์ “ละเลย เลยรุนแรง” แจกพัดรณรงค์รู้เท่าทันภัยออนไลน์ แจกเอกสารข้อมูลหน่วยงานให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุจากการใช้อินเตอร์เน๊ต และการละเมิดทางเพศ เกมจิ๊กซอร์เรื่อง สิทธิในเนื้อตัวร่างกาย สิทธิเด็ก และประเภทความรุนแรง มีป้ายผ้าให้เขียนข้อความรณรงค์ยุติความรุนแรง ประเด็นไม่ตีเด็ก และปัญหาเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติ และร่วมกิจกรรมรณรงค์ขบวนรถตุ๊กๆ โดย LCRC/CRYA /SUFASEC จำนวน 20 คัน ติดป้ายรณรงค์ยุติความรุนแรง 3 ภาษา (ไทย,อังกฤษ,ลาว) ติดตั้งแต่ 6 -15 ธ.ค.2567 และมีการนั่งรถตุ๊กๆ โดยแกนนำเด็กและพี่ๆ จำนวนประมาณ 40 คน ถือปัายและแจกเอกสารเชิญชวนคนในตลาดร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการลดความรุนแรงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมรณรงค์ รวมถึงมีส่วนร่วมกิจกรรมรณรงค์ร่วมกันที่สะพานมิตรภาพ (เครือข่ายจาก ลาว /LCRC/CRYA) มีการขึ้นกล่าวแถลงการณ์และข้อเสนอแนะบนเวทีโดยตัวแทนของ แกนนำเยาวชน เครือข่ายเยาวชนนักกิจกรรมเพื่อสิทธิเด็กและเครือข่ายสิทธิเด็กล้านนา
กิจกรรมสำคัญอื่นๆ ที่มูลนิธิรักษ์เด็ก ได้ดำเนินงาน
นอกเหนือโครงการต่างๆ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมแก่แกนนำเด็กและเยาวชน ในปี พ.ศ.๒๕๖๗
๑.ทุนการศึกษาต่อเนื่อง ม.๑ ถึง ม.๓ โดยเงินดอกเบี้ยได้จาก กองทุนจัดตั้งมูลนิธิรักษ์เด็ก (Scholarship) มูลนิธิรักษ์เด็ก ยังคงดำเนินงานมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องสำหรับเด็กระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเงินได้จากกองทุนจัดตั้งมูลนิธิรักษ์เด็ก ในปี พ.ศ.๒๕๖๗ จำนวน ๒ ทุน
๒. ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์แก่เด็ก เยาวชน และครอบครัว ที่เปราะบางต่อปัญหาสังคม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จาก Give 2 Asia ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม ที่บ้านเมืองกึ๊ด ม. ๒ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก ที่อาศัยอยู่หลายชาติพันธุ์ เช่นคนไทยท้องถิ่น กลุ่มชาติพันธุ์ เผ่าลาหู่ คนไทใหญ่ ส่งมอบชุดถุงยังชีพ จำนวน ๑๒๐ ชุด มอบของสำหรับเด็กเล็ก ได้แก่ นม ขนมสำหรับเด็ก ชุดแปรงสีฟัน ยาสีฟัน อุปกรณ์การเรียน เช่น ดินสอ สี ปากกา ไม้บรรทัด ยางลบ สมุดระบายสี สมุดโน๊ต จำนวน ๒๐๐ ชุด
๓.สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนลูกหลานแรงงานข้ามชาติ ที่มีความประพฤติเรียบร้อยครอบครัวได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ จาก Give 2 Asia จำนวน ๑ ราย
๔.สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนลูกหลานแรงงานข้ามชาติ ที่ครอบครัวประสบปัญหาความยากลำบากจากความเปราะบางของครอบครัว สนับสนุนโดย CAF America จำนวน ๒ รายและมอบอุปกรณ์สำหรับเด็ก เช่น นม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป จำนวน ๑ ราย
…………………………………………………………………………………………………….